วิธีดูแลรักษาหมวกนริภัย หมวกเซฟตี้



5 เคล็ดลับดูแลหมวกนิรภัยให้ใช้งานได้นาน ดูดีอยู่เสมอ

หมวกนิรภัย หรือที่หลายคนเรียกว่า “หมวกเซฟตี้” ไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุในที่ทำงานเท่านั้น
แต่ยังเป็นหน้าตาขององค์กร และสะท้อนถึงความใส่ใจในความปลอดภัยด้วย

แต่หลายครั้งหมวกนิรภัยกลับกรอบ แตก หรือซีดเร็ว ทั้งที่อายุการใช้งานตามมาตรฐานอาจอยู่ได้ถึง 2-3 ปี
บทความนี้เราจะพาไปรู้จัก 5 เทคนิคง่าย ๆ ที่ช่วยยืดอายุหมวกนิรภัยให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ แถมดูดีอยู่เสมออีกด้วย!

1. ห้ามเก็บหมวกนิรภัยไว้ในที่ร้อนจัดหรือโดนแดดตรง ๆ

เพราะความร้อนทำให้พลาสติกเสื่อมเร็วโดยไม่รู้ตัว

หมวกนิรภัยผลิตจากพลาสติกที่ออกแบบมาให้ทนแรงกระแทกและแสง UV ได้ระดับหนึ่ง
แต่ถ้าเก็บไว้ในรถที่จอดตากแดด หรือวางไว้ใกล้แหล่งความร้อนอย่างเตาอบ เครื่องจักร หรือแสงแดดแรง ๆ เป็นเวลานาน
จะทำให้เนื้อพลาสติกเปราะ แตกง่าย และอาจลดประสิทธิภาพในการป้องกันอันตรายได้

เคล็ดลับ: เก็บหมวกไว้ในที่แห้ง เย็น และพ้นแสงแดด เช่น ในตู้ล็อกเกอร์ หรือในถุงผ้าร่มแบบมีรูระบายอากาศ

2. ทำความสะอาดด้วยน้ำสบู่อ่อน ๆ และผ้าไมโครไฟเบอร์

หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีแรง เพราะอาจกัดเนื้อหมวก

หมวกนิรภัยที่ใช้ในไซต์งานมักมีฝุ่น เหงื่อ และคราบเปื้อนสะสม
หลายคนอาจเผลอใช้น้ำยาล้างห้องน้ำ หรือแอลกอฮอล์เข้มขัดออก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ

คำแนะนำ: ใช้เพียงน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือน้ำยาล้างจานเจือจาง กับผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเบา ๆ แล้วผึ่งลมให้แห้ง อย่าใช้ไดร์เป่าร้อนหรือแช่น้ำไว้นาน

3. ตรวจสอบรองในหมวกเป็นประจำ

รองในชำรุด = ความปลอดภัยลดลงทันที

ถึงตัวหมวกจะยังดูดี แต่ถ้ารองในเสื่อมสภาพ ยืด หรือแตกหัก ก็เท่ากับว่าหมวกนั้นไม่สามารถกระจายแรงกระแทกได้อย่างที่ควร

วิธีเช็ก: ลองขยับหมวกแรง ๆ บนศีรษะ ถ้ารู้สึกหลวม โยกเยก หรือมีเสียง “แกร๊ก” แปลว่ารองในเริ่มเสื่อมแล้ว ควรเปลี่ยนเฉพาะรองใน หรือเปลี่ยนหมวกใหม่ทันที

4. หลีกเลี่ยงการติดสติ๊กเกอร์หรือพ่นสีเองบนหมวก

ใช้การสกรีนจะปลอดภัยกว่า และดูเป็นมืออาชีพมากกว่า

การตกแต่งหมวกนิรภัยด้วยสติ๊กเกอร์ทั่วไปหรือพ่นสีเอง อาจทำให้เนื้อหมวกเสื่อมสภาพเร็วโดยไม่รู้ตัว
หากต้องการเพิ่มโลโก้บริษัทหรือทำให้หมวกดูมีเอกลักษณ์ แนะนำให้ใช้การสกรีนจะปลอดภัยและดูเป็นมืออาชีพมากกว่า

กรณีจำเป็นต้องใช้สติ๊กเกอร์: ควรเลือกสติ๊กเกอร์ชนิด UV DTF ซึ่งออกแบบมาสำหรับพื้นผิวพลาสติกและไม่ทำลายเนื้อหมวก

5. หมวกนิรภัยมีอายุการใช้งาน แต่ไม่ใช่ทุกใบจะเสื่อมตามเวลา

อย่าเพิ่งรีบทิ้งหมวก ถ้ายังไม่ได้ใช้งานจริง หรือเก็บรักษาไว้อย่างดี

แม้หลายแหล่งจะระบุว่า หมวกนิรภัยควรเปลี่ยนทุก 2-3 ปี แต่ตัวเลขนี้มักอ้างอิงจากกรณีใช้งานหนักกลางแจ้ง เช่น งานก่อสร้างที่หมวกต้องเจอแดดจ้า ฝน ลม และฝุ่นตลอดเวลา

ในทางกลับกัน หากเป็นการใช้งานในโรงงานที่อยู่ภายในอาคาร หรือในสำนักงานภาคสนามที่ไม่ได้เจอสภาพอากาศรุนแรงโดยตรง
รวมถึงหมวกที่เก็บไว้ในคลังสินค้าอย่างเหมาะสม อายุการใช้งานของหมวกก็อาจยาวนานกว่านั้นโดยไม่มีผลเสียต่อโครงสร้างของวัสดุ

คำแนะนำ: ตรวจสอบเนื้อหมวกว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ กดแล้วรู้สึกแข็งเกินไปหรือเปล่า และอย่าลืมเช็กสภาพรองใน หากทุกอย่างยังอยู่ในสภาพดี ก็สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ

สรุป

หมวกนิรภัยไม่ใช่อุปกรณ์ที่ดูแลยาก แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรมองข้าม
ถ้าเรารู้วิธีดูแลที่ถูกต้อง ก็สามารถใช้งานหมวกได้นานขึ้น ปลอดภัยขึ้น และดูดีขึ้นในทุกวัน

ต้องการหมวกนิรภัยคุณภาพดี พร้อมโลโก้องค์กร?

เรามีหมวกนิรภัยหลายทรง หลายสี รองรับการสกรีนโลโก้สำหรับงานองค์กรและอีเวนต์
พร้อมจัดส่งแบบมืออาชีพและให้คำปรึกษาโดยตรง

ดูสินค้าทั้งหมด

สาระน่ารู้อื่นๆ